โลกเปลี่ยน
องค์กรต้องปรับ เพื่อรับมือ “Aging Workforce”
สถานการณ์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลง
ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันทางธุรกิจที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องอายุเฉลี่ยแรงงานในระบบที่มีอายุสูงขึ้น
อัตราการเกิดลดลง เทคโนโลยีที่มุ่งเน้นความเป็นดิจิทัลมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกซึ่งนำไปสู่การลดลงของทรัพยากรเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ถึงเวลามาเจาะลึกกันถึงหนึ่งในประเด็นร้อนที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอยู่ในขณะนี้
อย่าง “การเพิ่มขึ้นของแรงงานวัยกลางคน” ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความจริงที่ว่า แนวโน้มอัตราการเกิดน้อยลง
กลุ่มผู้สูงอายุจึงมีจำนวนมากขึ้น
สังเกตได้จากประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ไม่ว่าจะเป็นประเทศสิงคโปร์ ที่มีอัตราผู้สูงวัยประมาณ 18% ตามมาด้วยประเทศไทย
16% และเวียดนามอยู่ที่ 10% สำหรับประเทศไทย
ประชากรวัยทำงานของไทยจะเริ่มลดลงเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ในปีค.ศ. 2018
เนื่องจากอัตราการเกิดที่ต่ำทำให้ประชากรใหม่ไม่สามารถทดแทนแรงงานที่เกษียณอายุในแต่ละปีได้
แล้วเพราะเหตุใด สถานการณ์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปนี้
จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ ?
แน่นอนว่าแรงงานวัยกลางคนจะมีความเปลี่ยนแปลงทางจิตวิทยาสังคม
เพราะมีความพอใจ รูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างจากแรงงานช่วงอายุอื่น ๆ และบางครั้งอาจมีประสบการณ์ถูกลิดรอนสิทธิ
และไม่ผูกพันกับงานตลอดจนมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระและสุขภาพที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน
“แต่ในขณะเดียวกัน แรงงานวัยกลางคนในองค์กรถือเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ทรงคุณค่า
เนื่องจากมีประสบการณ์ในการทำงานสูง ประกอบกับมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจ และมีการบริหารจัดการงานต่างๆ รวมทั้งยังมีความเป็นมืออาชีพจากการสั่งสมความเชี่ยวชาญในการทำงานมาตลอดระยะเวลาหลายปีและยังสามารถรักษาจรรยาบรรณวิชาชีพของตนเองไว้ได้เป็นอย่างดี"
นอกจากนี้ ถึงแม้องค์กรจะต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีที่เข้ามาใหม่
ไม่ว่าจะเป็น The
Internet of Things ตลอดจนการนำระบบอัตโนมัติ หรือ Automation
เข้ามาใช้ในการบูรณาการระบบต่าง ๆ แต่ถึงกระนั้นเทคโนโลยีต่าง ๆ
ก็ไม่สามารถแทนที่ในกระบวนการต่าง ๆ ได้ทั้ง 100% ส่วนที่ยังมีการนำเทคโนโลยีเข้ามายากคือด้านการบริหารจัดการ
ความเชี่ยวชาญเฉพาะ งานที่ต้องอาศัยการแก้ปัญหาอย่างซับซ้อน
งานที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ของคน ซึ่งถือเป็น “ทักษะเฉพาะทางที่จำเป็นในอนาคต” ตามรายงานของเว็บไซต์ World Economic Forum
องค์กรจึงต้องปรับตัวให้เข้ากันกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ด้วยการพัฒนาแนวทางที่ส่งเสริมให้ “องค์กรเกิดความสมดุลในด้านอัตรากำลังคน”เพื่อบุคลากรทุกช่วงวัยทำงานภายในองค์กร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ “แรงงานวัยกลางคน” มีจำนวนเพิ่มขึ้น
สำหรับแนวทางดำเนินการขององค์กรที่มีการบริหารจัดการแรงงานวัยกลางให้พัฒนาทักษะเพื่อตอบรับกับเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เริ่มตั้งแต่สร้างเงื่อนไขหรือสภาพการทำงานที่ยืดหยุ่นให้แก่แรงงานวัยกลางคน (Flexible, half-retirement) ตลอดจนเพิ่มกระบวนการทำงานที่เป็นอัตโนมัติมากขึ้น จนถึงประเด็นสำคัญ การฝึกและเพิ่มพูนทักษะการทำงานใหม่โดยคำนึงถึงความต้องการแรงงานในอนาคต
หรือเครื่องมือและระบบใหม่ รวมทั้งพยายามออกแบบงานและบทบาทการทำงานใหม่ให้สอดคล้องกับความเป็นอยู่ผ่านการปรับปรุงลักษณะงาน
(Creating new positions or adapting old ones) และสุดท้าย ควรปรับปรุงสภาพการทำงานด้วยหลักการยศาสตร์
ที่เอื้อต่อลักษณะกายภาพของแรงงานสูงวัย (Changing workplace ergonomics)
www.domnickhunterrl.com
Comments